ส้มเช้ง เล่าเรื่องราวชีวิต ลูกรู้จักพ่อผ่านไดอารี่ พร้อมโชว์หน้าใหม่

ส้มเช้ง เล่าเรื่องราวชีวิต ลูกรู้จักพ่อผ่านไดอารี่ พร้อมโชว์หน้าใหม่

ส้มเช้ง เล่าเรื่องราวชีวิต ในหลายเหตุการณ์ พร้อมโชว์หน้าหลังศัลยกรรม เคลียร์ใจทะเลาะกับเท่ง เผยเรื่องพ่อที่ลูกรู้จักผ่านไดอารี่ และเรื่องอื่น ๆ อีกมายมายในรายการแฉ ออกมาเผยหน้าใหม่หลังศัลยกรรมให้ได้ชม สำหรับ ส้มเช้ง สามช่า หรือ บุญญาวัลย์ พงษ์สุวรรณ ควง น้องหยก และ น้องคิม เล่าเรื่องราวชีวิต ให้ทุกคนได้ทราบว่าทะเลาะกับพี่ชาย เท่ง เถิดเทิง จริงหรือไม่ พร้อมทเล่าเส้นทางชีวิตกว่าจะมีวันนี้ไม่ใช่เรื่องงาน เคยคิดฆ่าตัวตายมาแล้ว

ส้มเช้ง พาลูกสาว น้องหยก และ น้องคิม มาเปิดใจเรื่องชีวิต 

ในรายการแฉ ทางช่อง GMM 25 โดยมี มดดำ น็อต วรฤทธิ์ และ ดีเจดาด้า ดำเนินรายการ พร้อมอัปเดตหน้าใหม่ให้ชมแบบใกล้ ๆ หลังบินไปศัลยกรรมที่เกาหลี เผยตอนนี้ยังยิ้มมากไม่ได้ เพราะยังหน้าตึง ๆ อยู่

“อย่ายิ้มเยอะ เดี๋ยวไหมขาด เกาหลีเปิดปุ๊บ สามแม่ลูกตะลุยเกาหลี ตึงจัด ยิ้มมากไม่ได้ บอกหมอว่าตอนนี้หูตึงแล้ว อยากได้หน้าตึง ก็ไปใส่ไขมัน และตัดยกเล็กน้อย เพราะที่แก้มซิลิโคนเป็นก้อน เราไปทำที่เดียวกับคุณนายดาว (ดาว มยุรี) ไปฉีดมา ฉีดหมอกระเป๋า แต่ตอนนี้หมอเขาตายไปแล้ว

เมื่อก่อนใครก็ไปฉีดกับเขา เราไม่ได้ฉีดเองนะ พานางเอกลิเกไปฉีด แม่ก็ให้หนูขึ้นเตียง เอาแก้มก่อน หน้าสั้นก็เติมให้ พี่เท่ง เถิดเทิงก็ทัก มึงเป็นไร ก็บอกว่าปวดฟันปวดอยู่เป็นอาทิตย์ มันบวม แต่มันสวยเข้าที่ 5 ปี แล้วเริ่มจับเป็นก้อน พออายุเยอะมันก็ตก พอแก่ตัวมันเหี่ยว ก็รอเกาหลีเปิดนี่แหละ ตอนนี้เราอายุ 55 ที่ไปฉีดมายังไม่ถึงเดือน ยังป่องอยู่ ทำที่เกาหลีไม่เจ็บจริงๆ ส่งลูกค้ามา ไม่เคยมีใครร้องเจ็บสักคน”

หยก : “ลูกสาวบอกว่าไปฉีดมาเหมือนกัน เอามันส์ เพราะวิตกจริตว่าหน้าใหญ่ จริงๆ แม่แอนตี้ศัลยกรรม เพราะจะทำเอง”

เงินครึ่งนึงเอาไว้เป็นค่าใช้จ่ายในบ้าน อีกครึ่งเอาไว้ทำศัลยกรรม

“เรามีความสุข เราอายุเยอะขึ้นทุกวัน แต่ก็อยากเด็กลงทุกวัน หรือไม่ก็ให้หน้าบล็อกอยู่แบบนี้”

หยกกับคิมรับตกใจ รู้ว่าแม่เคยจะฆ่าตัวตายเพราะดูจากทีวี

“เพิ่งรู้เรื่องจะผูกคอตาย ในรายการคุยแซ่บโชว์ ปีที่แล้ว ตอนนั้นตกใจ เราเห็นมุมที่แม่แข็งแรงมาตลอด ไม่คิดว่าแม่จะมีมุมแบบนั้นด้วย เรารู้ปัญหาชีวิตของแม่จากรายการทีวี เรื่องผูกคอนี่เป็นเรื่องใหม่มากที่รับรู้ผ่านรายการ แต่ไม่ได้มานั่งถามต่อว่ามันเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น เพราะเขาให้สัมภาษณ์หมดแล้ว หนูก็ฟังหมดแล้ว มันผ่านมาแล้ว”

ส้มเช้งเล่าสาเหตุทำไมอยากผูกคอตาย

“ตอนนั้นยังไม่ได้เข้าเวิร์คพ้อยท์ เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ชั่วโมงนั้นคิดแค่ว่าถ้าเราผูกคอตาย ลูกเราสองคนสบาย เพราะพ่อเขาจะมารับไปเลี้ยง เราคิดแค่นี้ ตอนนั้นเราไม่มีอะไรเหลือเลย บ้านก็ต้องเช่า ข้าวก็ต้องซื้อ เราตายดีกว่า คว้าเชือกผูกคอเรียบร้อย มัดไปก็ร้องไห้ไป ในหัวเราเหมือนมีสองคน ผูกเลยต้องตาย

ถ้าตายลูกจะสบาย อีกข้างบอกว่าทำไมต้องตาย มันก็เถียงกันอยู่ จนสติมา ถามว่าคนที่ชื่อไอ้พันธ์ (ชื่อเดิม) ไปไหน เมื่อก่อนทุกคนในบ้านจะทำอะไรก็ต้องรอถามไอ้พันธ์ ไอ้พันธ์เป็นเบอร์หนึ่ง ไอ้คนนั้นไปไหน คนที่แน่วแน่ ไม่เคยพึ่งพาใคร เงินบาทนึงก็ไม่เคยขอใคร ทำไมไม่ฮึดวะ

ตอนนั้นหยกอายุ 3 ขวบ ชม.นั้นก็คิดว่าต้องตาย ลูกจะได้สบาย ทำเพื่อลูก ถ้าอยู่กับเราลำบากแน่นอน สุดท้ายก็ฮึดว่าเราต้องทำให้ได้ดี ต้องเลี้ยงลูกเราได้ ตอนที่เราออกมา เราปฏิญาณว่าลูกเราต้องเลี้ยงได้ และได้ดี และปฎิญาณว่าฉันจะไม่ทำแบบนี้อีก”

หยกยอมรับรู้เรื่องของพ่อจากการแอบอ่านไดอารี่ของแม่

หยก : “หนูไปรื้อของ เก็บรวมกับอัลบั้มรูป มีอยู่เล่มเดียว มียันสูตรข้าวมันไก่ จดทุกอย่าง มีวาดรูปแหวนเพชร สูตรหมูสะเต๊ะ หนูอ่านหลายรอบมาก ครั้งแรกอ่านตอนที่ยังเด็กมากๆ หนูอ่านหนังสือออกเร็ว อ่านแล้วก็ไม่เข้าใจ ตอนโตก็หยิบมาอ่านเรื่อยๆ จนมาเข้าใจ รู้จักป๊าหลักๆ จากหนังสือเล่มนั้นด้วยส่วนหนึ่ง เรารับรู้ไม่ทันตอนป๊าอยู่ด้วยกัน”

ส้มเช้ง : “เหมือนมันว่าง แล้วเขาชอบมาก เรามีเขาก็ตัดภาพเขามาแปะ เขาก็ชอบเอามาดู มีความสุขกับการได้ดูแล้วเขาจะอินมากเวลาเล่าชีวิตวัยเด็ก เขาจะร้องไห้ ซึ้ง เราไม่รู้เลยว่าเขาแอบอ่านไดอารี่ มารู้ตอนโตนี่แหละ”

หยก : “หนูเป็นคนเอาไดอารี่ไปซ่อน หนูอ่านแล้วแม่ไม่เคยถามถึงมัน หนูก็เก็บไว้เอง ไม่อยากให้หายไป แต่ตอนนี้ไม่รู้เก็บไว้ที่ไหน (หัวเราะ) อยู่ในบ้านนี่แหละ ต้องหาก่อน”

เผยตอนเปิดตัวมีลูก คนไม่เชื่อว่าเป็นลูกจริง เพราะคิดว่าตนเป็นกะเทย

ส้มเช้ง : “เขาก็บอกว่าลูกคนอื่น เราเป็นกะเทย มีลูกไม่ได้ เราก็บอกว่าเราก็เป็นกะเทยนั่นแหละ แต่ตอนผ่าหมอแถมมดลูกมา (หัวเราะ) แล้วชื่อนามสกุลเรามีคนชื่อนั้นจริงๆ เหมือนผู้ชาย เขาก็มาเถียงกันในโซเชียล เขาไปสืบจากทะเบียนราษฎร์มา

เขาเลยไม่เชื่อว่าเป็นผู้หญิง ชีวิตมันส์มาก สนุกมาก บอกว่ามีลูกก็ไม่มีใครเชื่อ ตอนลูกอยู่โรงเรียนก็ไปรับไปส่ง มีงานในโรงเรียนก็ไป แต่คนอาจสนใจบ้างไม่สนใจบ้าง แต่เขาอาจคิดว่าเป็นหลานมั้ง”

credit: coachwalletoutletonlinejp.com
tnnikefrance.com
SakiMono-BlogParts.com
syazwansarawak.com
paulojorgeoliveira.com
NewenglandBloggersMedia.com
FemmePorteFeuille.com
mugikichi.com
gallerynightclublv.com
TweePlebLog.com